สมาร์ทโฟนนั้นมีบทบาททุกที่ ทุกเวลาในชีวิตประจำวัน แต่ค่าบริการรายเดือนที่สูงนั้น อาจเป็นอุปสรรคสำคัญของหลายๆคน ถ้าต้องการใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบายแล้ว สมาร์ทโฟนและอินเตอร์เน็ตนั้นเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ แต่หลายๆคนอาจคิดอยู่ในใจว่า ถ้าราคาค่าบริการถูกกว่านี้คงจะดี สิ่งที่กำลังเป็นที่สนใจในตอนนี้ คือ การใช้ “ซิมการ์ด” ราคาถูก ซึ่งทำให้เราสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้ เพราะค่าบริการถูกกว่าค่าบริการสมาร์ทโฟนทั่วไป ในโอกาสนี้เราจะแนะนำเกี่ยวกับ “การใช้ซิมการ์ด” และ “ขั้นตอนตั้งแต่การซื้อ เปลี่ยน จนถึงใช้งาน” เราหวังว่าท่านที่กำลังคิดจะซื้อซิมการ์ด จะได้รับประโยชน์จากบทความนี้
ซิมการ์ดสะดวก ใช้งานได้หลากหลาย เวลาไหนบ้าง?
ถ้าเราซื้อซิมการ์ดแบบเติมเงิน หรือซิมการ์ดราคาถูกมาใช้งาน เราจะต้องถอดซิมการ์ดเก่าที่มากับสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตออกก่อน และใส่ซิมการ์ดใหม่เข้าไปแทน เพราะเหตุนี้ หลายท่านอาจกังวลว่า “ต้องรอนานกว่าจะใช้อินเตอร์เน็ตได้หรือไม่?” “การตั้งค่ายุ่งยากรึเปล่า” จึงเกิดอาการลังเลและเลือกที่จะไม่ซื้อมาใช้งาน แต่ทว่าในความเป็นจริง การเปลี่ยนซิมการ์ดนั้นง่ายมากๆ ไม่มีขั้นตอนที่ซับซ้อนละเอียดอ่อน และหลังจากการตั้งค่าในอุปกรณ์นิดหน่อย ก็จะสามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้อย่างง่ายดาย แค่เพียงจำวิธีการตั้งค่า เราก็จะสามารถเลือกใช้ซิมการ์ดต่างๆที่วางขายในประเทศได้เป็นอย่างดี ทั้งยังสามารถซื้อซิมการ์ดมาเปลี่ยนและใช้งานอินเตอร์เน็ตได้ ระหว่างการท่องเที่ยวในต่างประเทศ อีกด้วย
ก่อนอื่นสำหรับผู้ที่สงสัยว่าซิมการ์ดที่แสนสะดวกนั้น ควรใช้งานตอนไหนบ้าง เราขอแนะนำการใช้งานในลักษณะต่างๆไว้ด้านล่างนี้
เวลาท่องเที่ยวต่างประเทศหรือกลับประเทศชั่วคราว
นอกเหนือจากซิมการ์ดปรกติ ที่ใช้กันทั่วไปแล้วนั้น ยังมีซิมการ์ดแบบเติมเงิน วางขายอยู่เป็นจำนวนมาก ซิมการ์ดแบบเติมเงินนั้น เราจะต้องจ่ายเงินล่วงหน้าตามระยะเวลาที่ต้องการใช้งาน เช่น เพื่อเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต ฯลฯ เนื่องจากซิมการ์ดประเภทนี้ สะดวกมากๆสำหรับการใช้งานในระยะสั้นๆ จึงเหมาะกับเวลา “ท่องเที่ยวต่างประเทศ” หรือ “กลับประเทศชั่วคราว” การมี หรือไม่มีสมาร์ทโฟนไว้ใช้งานนั้น แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะเวลาท่องเที่ยวต่างประเทศ ที่อาจมีปัญหาด้านการสื่อสาร หรือขาดความชำนาญพื้นที่ ถ้าต้องการเตรียมพร้อมเพื่อการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตอย่างสะดวกสบายในต่างแดน จะสบายใจกว่ามากถ้าเราเตรียมจัดซื้อซิมการ์ดที่สามารถใช้งานในต่างประเทศได้ไว้ล่วงหน้า นอกจากนี้ ซิมการ์ดที่สามารถใช้งานได้ภายในประเทศนั้น ยังสะดวกสบายสำหรับผู้ที่กลับประเทศเป็นการชั่วคราว อีกด้วย
โดยปรกติแล้วสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตที่วางขายในต่างประเทศนั้นจะเป็นเครื่องเปล่า ซึ่งไม่ได้ล็อกไว้กับผู้ให้บริการเครือข่ายใดเครือข่ายหนึ่ง เพราะฉะนั้นเพียงเปลี่ยนซิมการ์ดเป็นซิมการ์ดสำหรับใช้งานภายในประเทศ ก็จะสามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้โดยง่าย และในกรณีซิมการ์ดแบบเติมเงินนั้น ไม่จำเป็นต้องตรวจคุณสมบัติผู้ใช้งานล่วงหน้า หรือเตรียมบัตรเครดิตให้ยุ่งยาก เพียงจ่ายค่าบริการล่วงหน้า ก็สามารถซื้อได้ เราจึงแนะนำให้ซื้อไว้ให้ญาติพี่น้อง หรือเพื่อนที่อาศัยอยู่ต่างประเทศ ใช้งานเวลากลับมาเป็นการชั่วคราว
เวลาใช้สมาร์ทโฟน 2 เครื่อง
สำหรับท่านที่ต้องการ “สมาร์ทโฟนเครื่องที่ 2” นอกเหนือจากเครื่องเดิม เราแนะนำให้ใช้ซิมการ์ดแบบเติมเงิน หรือซิมการ์ดราคาถูก วิธีหนึ่ง คือ เครื่องแรก มีไว้ใช้ส่วนตัว ผูกสัญญาบริการกับเครือข่ายตามปรกติ ส่วนเครื่องที่ 2 สำหรับใช้ทำงานนั้น ใช้ซิมการ์ดแยกต่างหาก ในเวลาที่เรามีสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต 2 เครื่อง คนส่วนมากต้องการคุมค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับจำนวนดาต้าของเครื่องใดเครื่องหนึ่งให้น้อยที่สุด เพราะฉะนั้นควรซื้อซิมการ์ดแบบเติมเงินมาใช้งาน เพราะสามารถชำระเงินล่วงหน้าโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม หรือซื้อซิมการ์ดราคาถูก ที่ค่าบริการแค่ 2-3,000 เยนต่อเดือน มาใช้งานแทน
เวลาต้องการป้องกันการเก็บค่าบริการเพิ่มเติม
เราแนะนำให้ซื้อซิมการ์ดใหม่ ในกรณีที่เราจะให้คนอื่น เช่นคนที่ไม่เคยใช้สมาร์ทโฟนมาก่อน ยืมสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตเก่าของเราไปลองใช้ ถ้าเราซื้อซิมการ์ดแบบเติมเงิน เราจะมั่นใจว่าจะไม่มีการเก็บค่าบริการเพิ่มเติมจากที่จ่ายไปล่วงหน้า จึงสามารถใช้อินเตอร์เน็ตได้อย่างสบายใจ รวมถึงเมื่อเกิดความรู้สึกว่าใช้งานไม่สะดวก ก็สามารถยกเลิกได้ โดยไม่มีการเก็บค่ายกเลิกสัญญา ส่วนซิมการ์ดราคาถูกนั้น บางประเภทก็มีสัญญาผูกมัดเช่นเดียวกับสัญญาบริการสมาร์ทโฟนปรกติ จึงควรตรวจสอบค่าแรกเข้า และค่ายกเลิกสัญญา ไว้ล่วงหน้า ในที่นี้เราอยากแนะนำซิมการ์ดแบบเติมเงินมากกว่า เนื่องจากไม่มีค่าแรกเข้า และค่ายกเลิกสัญญา ทำให้สามารถเริ่มใช้ และหยุดใช้ เมื่อไหร่ก็ได้ ตามต้องการ
เวลาต้องการลดค่าใช้จ่ายสมาร์ทโฟนรายเดือน
ซิมการ์ดที่จัดจำหน่ายโดยผู้ให้บริการเครือค่ายเสมือน (MVNO: Mobile Virtual Network Operator) นั้น มีค่าบริการถูกกว่าผู้ให้บริการเครือข่ายรายใหญ่ๆ ซึ่งทำให้น่าใช้อย่างมาก โดยเฉพาะท่านทั้งหลายที่กังวลว่าค่าใช้จ่ายรายเดือนเกี่ยวกับสมาร์ทโฟนนั้นแพงเกินไป เพียงเปลี่ยนมาใช้ซิมการ์ดราคาถูก ก็จะสามารถลดค่าใช้จ่ายลงได้เดือนละหลายพันเยน ซิมการ์ดราคาถูกนั้นมีหลายประเภท แบบใช้งาน 7 วัน หรือหลายอาทิตย์ นานสุดสามารถใช้งานได้ 30 วัน ผู้ใช้งานส่วนมากพบว่าสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้เดือนละ 2-3,000เยน ถึงแม้ว่าซื้อซิมการ์ดแบบ 30 วันมาใช้ก็ตาม ถ้าเราซื้อซิมราคาถูกแบบเติมเงินมาใช้ ก็จะไม่มีค่าแรกเข้า และค่ายกเลิกสัญญา จึงสามารถเริ่มใช้งาน และยกเลิก เมื่อไหร่ก็ได้ตามต้องการโดยไม่มีปัญหาใดๆตามมา ต่างกับสัญญาบริการกับเครือข่ายใหญ่ๆ ซึ่งโดยปรกติแล้วจะมีระยะเวลาผูกมัด 2 ปี จึงจะมีการเก็บค่ายกเลิกสัญญาในกรณีต้องการเลิกใช้บริการกลางคัน เพราะฉะนั้นค่าใช้จ่ายโดยรวมของการใช้ซิมการ์ดราคาถูกนั้น น้อยกว่าปรกติมาก จึงสามารถช่วยควบคุมค่าใช้จ่ายได้
เวลาไม่ต้องการใช้สัญญาณโทรศัพท์มือถือ
今สมัยนี้มีแอปพลิเคชันสมาร์ทโฟนมากมายที่ทำให้เราสามารถแชท สนทนาด้วยเสียง และวีดีโอคอลล์ได้ ผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต หลายๆท่านจึงไม่ได้ใช้สัญญาณโทรศัพท์มือถือเพื่อการสนทนาเหมือนแต่ก่อน ยกตัวอย่างเช่น สำหรับท่านที่ใช้สมาร์ทโฟน 2 เครื่อง น่าจะคิดว่าถ้าเครื่องใดเครื่องหนึ่งสามารถรับโทรศัพท์ได้ก็เพียงพอแล้ว สำหรับกรณีนี้ การใช้งานซิมการ์ดประเภทรับส่งดาต้า (Data Sim) ไว้สำหรับเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตอย่างเดียวจะสะดวกมาก
ซิมการ์ดประเภทรับส่งดาต้า (Data Sim) นั้น มีคุณสมบัติเฉพาะคือ สามารถรับส่งข้อมูลได้เท่านั้น จึงไม่สามารถใช้โทรศัพท์ หรือส่ง SMS ได้ ในบรรดาซิมการ์ดแบบรับส่งดาต้า จะมีประเภทที่เราสามารถเลือกว่าจะให้รับส่ง SMS ได้ หรือใช้โทรศัพท์ได้ เป็นบริการเสริม รวมอยู่ด้วย แต่ทว่าสำหรับซิมการ์ดที่ใช้โทรศัพท์ได้นั้น จะต้องใช้เอกสารยืนยันตัวตนและบัตรเครดิตของผู้ใช้งานเพื่อชำระค่าบริการ และจำเป็นต้องตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ใช้งานล่วงหน้า เพราะฉะนั้นสำหรับผู้ที่ “ต้องการใช้ซิมการ์ดแบบไม่ยุ่งยาก” หรือ “ไม่จำเป็นต้องโทรเข้า-โทรออกได้” นั้น เราแนะนำให้ใช้ซิมการ์ดแบบเติมเงิน ประเภทรับส่งดาต้าเท่านั้น
pocket wifi ญี่ปุ่น
pocket wifi japan
เช่า wifi ญี่ปุ่น
sim ญี่ปุ่น
sim japan